วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การรถไฟฯ เผยรายชื่อบริษัทยื่นซองเอกสารข้อเสนอ ร่วมลงทุน โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง

การรถไฟฯ เผยรายชื่อบริษัทยื่นซองเอกสารข้อเสนอ ร่วมลงทุน โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง


วันนี้ (30 พฤศจิกายน 2561) ณ ห้องประชุม สถานีรถไฟบางซ่อนเขตบางซื่อ การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดรับซองเอกสารข้อเสนอ“ร่วมลงทุน” โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง มีบริษัทเข้ายื่นซองเอกสารเสนอราคา จำนวน 1 ราย  


ดร.ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อนกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อดำเนินการสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้เปิดให้บริษัทเอกชนที่มีความสนใจเข้าซื้อเอกสารข้อเสนอร่วมลงทุน โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 3 กันยายน จนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ได้มีบริษัทเอกชนและบุคคลเข้าซื้อเอกสาร จำนวน 10 ราย และได้มีการชี้แจงรายละเอียดและตอบคำถามแก่บริษัทที่สนใจเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 โดยกำหนดรับซองข้อเสนอราคาในวันนี้ ซึ่งมีกลุ่มบริษัทเข้ายื่นข้อเสนอ จำนวน 1 ราย คือ กิจการร่วมค้า เอ แอล จี(ประเทศไทย) ประกอบด้วย บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบังเทอร์มินัล จำกัด   บริษัท เอเวอร์กรีนคอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด  บริษัท โอเชี่ยนเน็ตเวิร์ค เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด

โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งให้การรถไฟฯ เป็นผู้ดำเนินการสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการไอซีดี ลาดกระบังใหม่ ตามพระราชบัญญัติให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556

ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการบรรจุและแยกตู้สินค้า (Container) ที่มีการนำเข้า หรือการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานขนส่งสินค้าตามนโยบายของรัฐ และช่วยลดต้นทุนในการขนส่งให้ผู้ส่งออก และนำเข้าของต่างประเทศ เนื่องจากเป็นระบบการขนส่งที่ใช้ต้นทุนต่ำ แต่สามารถขนส่งสินค้าได้ครั้งละเป็นจำนวนมาก มีความปลอดภัย ช่วยลดปัญหาด้านจราจร และช่วยลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม

  หลังจากนี้ คณะกรรมการคัดเลือก จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ และตรวจสอบเอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น จะต้องชำระค่าธรรมเนียม

การประเมินข้อเสนอให้แก่การรถไฟฯ เป็นจำนวนเงิน 2 แสนบาท และผู้ยื่นเสนอที่ผ่านการประเมินข้อเสนอจะต้องวางหลักประกันสัญญาที่ออกโดยธนาคารให้กับการรถไฟฯ ในวันที่เข้าทำสัญญาร่วมทุนเป็นมูลค่า 250 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาร่วมลงทุนของเอกชนคู่สัญญา ทั้งนี้จะประกาศผลการคัดเลือกเอกชน

ร่วมลงทุน ภายใน 45 วัน นับจากวันที่ยื่นซองเอกสารเสนอราคา ณ ที่ทำการ การรถไฟแห่งประเทศไทย

รฟท. จัดตู้โดยสาร Bike Bogie บริการฟรีให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก

รฟท. จัดตู้โดยสาร Bike Bogie บริการฟรีให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก


นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สินรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” และทรงจักรยานนำประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก” ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญ ในการรักษาสุขภาพ ด้วยการออกำลังกาย ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมทั่วประเทศ การรถไฟฯ ได้อำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนที่ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก”

 

โดยการพ่วงตู้รถบรรทุกจักรยานให้บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายไปกับขบวนรถที่เดินประจำในเส้นทางสายเหนือ สายตะวันออก และสายใต้ในวันซ้อมใหญ่ 2 ธันวาคม 2561 และวันจัดกิจกรรม 9 ธันวาคม 2561 ดังนี้


1. สายเหนือ รับ – ส่งทุกสถานีระหว่างอยุธยา – กรุงเทพ – อยุธยา จำนวน 2 ขบวน ประกอบด้วย

   - ขบวนรถธรรมดาที่ 342  (ชุมทางแก่งคอย – กรุงเทพ) ออกจาก อยุธยา – กรุงเทพ เวลา 06.24 – 08.40 น. 

   - ขบวนรถธรรมดาที่ 341 (กรุงเทพ – ชุมทางแก่งคอย) ออกจาก กรุงเทพ - อยุธยา  เวลา 17.00 – 18.57 น.  


2. สายตะวันออก รับ – ส่งทุกสถานีระหว่างฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา จำนวน 2 ขบวนรถ  

    ประกอบด้วย 

   - ขบวนรถธรรมดาที่ 372 (ปราจีนบุรี - กรุงเทพ –) ออกจาก ฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ เวลา 06.19 – 08.15 น.

   - ขบวนรถธรรมดาที่ 371 (กรุงเทพ – ปราจีนบุรี) ออกจาก กรุงเทพ -  ฉะเชิงเทรา เวลา 17.40 – 19.20 น.


3. สายใต้ รับ – ส่งส่งทุกสถานีระหว่างนครปฐม - ธนบุรี – นครปฐม จำนวน 2 ขบวนรถ ประกอบด้วย 

   - ขบวนรถธรรมดาที่ 260 (น้ำตก – ธนบุรี) ออกจาก นครปฐม – ธนบุรี เวลา 09.19 – 10.25 น. 

   -  ขบวนรถธรรมดาที่ 351 (ธนบุรี – ราชบุรี) ออกจาก ธนบุรี – นครปฐม เวลา 18.25 - 19.29 น.  


สำหรับประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรม“Bike อุ่นไอรัก” สามารถนำบัตรประชาชนมาติดต่อขอรับตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟในเส้นทางดังกล่าวโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

สตม.ร่วมกับ บก.จร. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่(บิ๊กไบค์)ยกล้อสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนและประชาชนที่อาศัยในพื้นที่

สตม.ร่วมกับ บก.จร. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่(บิ๊กไบค์)ยกล้อสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนและประชาชนที่อาศัยในพื้นที่


ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เป็น หน.ชุดปฏิบัติการรองรับการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ดังกล่าว


วันนี้ (30 พ.ย.61) เวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. หน.ชุดปฏิบัติการตามคำสั่ง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร., พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.4 บก.จร.,พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.2 บก.จร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะ ตามคำสั่งตร.ที่ 661/2561 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร สืบเนื่องจากกระแสข่าวการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่างๆ ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกลุ่มผู้ขับขี่รถบิ๊กไบค์ออกทริปไปตามต่างจังหวัดขี่ซิ่งยกล้อ สร้างความเดือนร้อนให้กับชาวบ้าน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่และกลุ่มผู้ใช้รถบิ๊กไบค์ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว อีกทั้งยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนอีกหลายช่องทางว่ามักจะมีการรวมกลุ่มของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ไปตามถนนเส้นต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยมีพฤติกรรมขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะประมาทหวาดเสียวอันน่าจะเกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น และขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนรวบรวม พยานหลักฐานจนทราบว่า กลุ่ม“สายบันเทิง” และ กลุ่ม “Hell Big Trip” คือ 2 กลุ่มที่ขับขี่รถบิ๊กไบค์สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนตามข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมีผู้ติดตามเพจดังกล่าวจำนวนมากกว่า 500,000 คน และเป็นกลุ่มบิ๊กไบค์ซิ่งยกล้อระดับแนวหน้าของประเทศไทย ได้โพสข้อความในลักษณะที่ชักชวน สนับสนุน หรือส่งเสริม ให้ผู้อื่นขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงปลอดภัยของผู้อื่น (ยกล้อ) ซึ่งจากพยานหลักฐาน​การสืบสวน​ทราบว่า แอดมินเพจ “สายบันเทิง” คือ นายวรภัทร กิจเจริญนำชัย และ “นายณรุจ ป้อมประภา” และกลุ่ม  “Hell Big Trip” แอดมินเพจ“Chanathan Hell Jitkaew” คือ นายชนธัญ จิตร์แก้ว ​เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนขับขี่รถในลักษณะประมาทหวาดเสียวและขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น” จับกุมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลจนทราบว่า นายจิรายุทธ ทองสม , นายมนตรี อุ่นใจ ,นายจักราวุธ เปรมศรี และนายวายุ เพ็งสกุล ทั้ง 4 ราย เป็นผู้ขับขี่​รถจักรยานยนต์คันใหญ่​(บิ๊กไบค์) ยกล้อหน้า​ ที่ปรากฎหลักฐานตามคลิปและภาพถ่ายที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ขับขี่รถในลักษณะประมาทหวาดเสียวและขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น​ มีบทลงโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือ ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยได้นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป โดยรายอื่นที่ปรากฎตามคลิปจะสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับทุกราย


จึงอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มีพฤติกรรมแข่งรถโดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวขับขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ออกทริปยกล้อสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อประชาชนเป็นอย่างมาก จึงรณรงค์ให้ประชาชนที่กำลังมีความคิดที่จะรวมตัวออกทริปไปขับขี่ซิ่งยกล้อ หรือออกมารวมกลุ่มมั่วสุมในพื้นที่ให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นอย่างมาก และช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล เพราะถ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนถือว่าเป็นความผิดและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะบูรณาการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อปราบปรามและดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างถึงที่สุดทุกราย

โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ โดย กอ.รมน.กทม.(ท) ร่วมกับสมาคมสตรีสัมพันธ์ และกลุ่มนักธุรกิจเพื่อความมั่นคง กอ.รมน.กทม.

โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ โดย กอ.รมน.กทม.(ท) ร่วมกับสมาคมสตรีสัมพันธ์ และกลุ่มนักธุรกิจเพื่อความมั่นคง กอ.รมน.กทม.


วันที่ 30 พ.ย. 61 กอ.รมน.กทม.(ท) โดย พล.ต.มนัส จันดี รอง ผอ.รมน.กทม.(ท) , พ.อ.พีระพงศ์ ไชยศรี , พ.อ.ศรุติ รัตโนทัย เจ้าหน้าที่กอ.รมน.กทม. ร่วมกับ คุณวีรุทัย มณีนุชเนตร นายกสมาคมสตรีสัมพันธ์ , คุณจำเริญ โพธิ์ศรี ประธานนักธุรกิจเพื่อความมั่นคง รุ่น9 , นายพัชรพงษ์ อภิธรรมวิริยะ ประธานนักธุรกิจเพื่อความมั่นคง รุ่น8 นายจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล ผู้สนับสนับสนุนภาคเอกชนและมวลชนกลุ่มต่างๆ 

 

จัดโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ ณ โรงเรียนวัดกระจับพินิจ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ โดยมี พล.ต.มนัส จันดี รอง ผอ.รมน.กทม.(ท) เป็นประธาน ในการมอบสิ่งของอุปกรณ์ในโครงการฯ เช่นรถเข็นวิลแชร์ , แพมเพิส , ที่นอนลม , ข้าวสาร อาหาร ฯลฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการขอรับการช่วยเหลือ จำนวน 10 เขต รวมทั้งสิ้น 33 ราย หลังจากนั้นทางประธานฯ ได้นำคณะ เดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 2 ราย ในพื้นที่ชุมชนสนามแดง เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบที่นอนลม และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ


ทั้งนี้ทางโครงการฯ จะดำเนินการสำรวจข้อมูลผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อจัดทำโครงการฯ มอบสิ่งของในโอกาสต่อไป

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ขสมก จัดเดินรถโดยสารให้บริการฟรี อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางไปร่วมงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ระหว่างวันที่ 9 ธ.ค. 61 – 19 ม.ค.62

ขสมก จัดเดินรถโดยสารให้บริการฟรี อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางไปร่วมงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ระหว่างวันที่ 9 ธ.ค. 61 – 19 ม.ค.62


นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ  รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า  ด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้พระราชทาน พระราชานุญาต ให้จัดงานฤดูหนาวขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรัชสมัย ภายใต้ชื่อ “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า กรุงเทพมหานคร โดยในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานอุ่นไอรักฯ จากนั้นจะทรงจักรยานนำผู้เข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก”เส้นทางพระลานพระราชวังดุสิต - สวนสุขภาพลัดโพธิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ขสมก.จึงจัดเดินรถโดยสารให้บริการฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่จะเดินทางไปร่วมงานดังกล่าว โดยมีรายละเอียด ดังนี้    

1. จัดเดินรถโดยสารกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก”  ในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 จำนวน 15 เส้นทาง

โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.1 จัดรถเฉพาะกิจให้บริการฟรี  (จอดรับ-ส่งทุกป้าย)  จำนวน 4 เส้นทาง  ได้แก่

- เส้นทางที่ 1 สถานีขนส่งจตุจักร          จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 2 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ         จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 3 สถานีรถไฟหัวลำโพง       จอดส่งที่สะพานขาว ให้บริการ จำนวน 10 คัน        

- เส้นทางที่ 4 สนามศุภชลาศัย              จอดส่งที่แยกยมราช ให้บริการ จำนวน 10 คัน

1.2 จัดรถ Shuttle Bus ให้บริการฟรี (รับจากจุดจอดรถ-จุดส่ง) จำนวน 11 เส้นทาง ได้แก่

- เส้นทางที่ 1 เซ็นทรัลเวสต์เกต           จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 5 คัน

- เส้นทางที่ 2 รฟม.(พระราม 9)  สำนักงานใหญ่                          จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 15 คัน

- เส้นทางที่ 3 อาคารจอดรถไฟฟ้าใต้ดิน(แยกรัชดา - ลาดพร้าว)   จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 15 คัน

- เส้นทางที่ 4 ศาลอาญา (ถนนรัชดาฯ)   จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 5 เซ็นทรัลพระราม 2           จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 4 คัน

- เส้นทางที่ 6 พุทธมณฑล สาย 4          จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 7 เมืองทองธานี                 จอดส่งที่บ้านมนังคศิลา ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 8 สนามกีฬาธูปเตมีย์          จอดส่งที่บ้านมนังคศิลา ให้บริการ จำนวน 5 คัน  

- เส้นทางที่ 9 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ     จอดส่งที่บ้านมนังคศิลา ให้บริการ จำนวน 10 คัน  

- เส้นทางที่ 10 เมกา บางนา                 จอดส่งที่บ้านมนังคศิลา ให้บริการ จำนวน 5 คัน  

- เส้นทางที่ 11 ไบเทค บางนา             จอดส่งที่บ้านมนังคศิลา ให้บริการ จำนวน 10 คัน

 ทั้งนี้การจัดเดินรถโดยสารทั้ง 15 เส้นทาง มีรายละเอียด  ดังนี้

- ท่าต้นทางทั้ง 15 จุด รถคันแรกออก เวลา 07.00 น. รถคันสุดท้ายออก เวลา 21.00 น.

- ท่าปลายทาง (พื้นที่จัดงาน) ให้บริการเดินรถ จนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด

- ระยะเวลาการปล่อยรถ  ปล่อยรถออกทุกๆ 10 นาที

2. จัดเดินรถโดยสารงาน“อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 19 มกราคม 2562  จำนวน 7 เส้นทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

2.1 จัดรถเฉพาะกิจให้บริการฟรี  (จอดรับ-ส่งทุกป้าย)  จำนวน 5 เส้นทาง  ได้แก่

- เส้นทางที่ 1 สถานีขนส่งจตุจักร         จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 2 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ       จอดส่งที่แยกวัดเบญจฯ ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 3 วงเวียนใหญ่                จอดส่งที่แยกวังแดง ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 4 สถานีรถไฟหัวลำโพง     จอดส่งที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ให้บริการ จำนวน 10 คัน        

- เส้นทางที่ 5 สนามศุภชลาศัย            จอดส่งที่แยกสวนมิสกวัน ให้บริการ จำนวน 10 คัน

2.2 จัดรถ Shuttle Bus ให้บริการฟรี (รับจากจุดจอดรถ-จุดส่ง)  จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่

- เส้นทางที่ 1 สนามม้านางเลิ้ง          จอดส่งที่แยกวัดเบญจฯ ให้บริการ จำนวน 10 คัน

- เส้นทางที่ 2 สนามหลวง                จอดส่งที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ให้บริการ จำนวน 10 คัน        ทั้งนี้   การจัดเดินรถโดยสารทั้ง 7 เส้นทาง มีรายละเอียด  ดังนี้

- ท่าต้นทางทั้ง 7 จุด รถคันแรกออก เวลา 09.00 น. รถคันสุดท้ายออก เวลา 21.00 น.

- ท่าปลายทาง (พื้นที่จัดงาน) ให้บริการเดินรถ จนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด

- ระยะเวลาการปล่อยรถ ปล่อยรถออกทุกๆ 10 นาที

ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการสอบถามเส้นทางรถเมล์  หรือ แนะนำบริการได้ที่ www.bmta.co.th , facebook bmta@bmta.co.th หรือ ศูนย์ Call Center 1348  ทุกวัน  ตั้งแต่เวลา 05.00 - 22.00 น.

ชาวบ้านก้มกราบ น.อ.ภ เมินหน้าเดินหนีแก้ปัญหาชาวบ้าน

ชาวบ้านก้มกราบ น.อ.ภ เมินหน้าเดินหนีแก้ปัญหาชาวบ้าน


      ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ เดินทางขอเข้าพบร้องขอความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านต่อพล.อ.ประยุทธ์ฯ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่จะเดินทางมาตรวจราชการที่จ.ชัยภูมิ ในวันที่ 3 ธ.ค.61 นี้ด้วย หลังเกินกรณีชาวบ้านก้มกราบนายอำเภอลงพื้นถนนวิงวอนช่วยแก้ปัญหาการเข้าตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงผ่านบ้านเรือนประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลจากการเร่งเข้ามาตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ในรอยต่อกว่า 3 หมู่บ้าน ระยะทางยาวกว่า 22 กม. ซึ่งมีชาวบ้านรายหนึ่งเดินเข้าไปก้มลงกราบ นางสาวสุกัญญา  กุลสุวรรณ์ นายอำเภอหนองบัวระเหว ลงบนพื้นถนน ที่เป็นช่วงระหว่างนายอำเภอได้เดินทางลงพื้นที่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 พ.ย.61 ที่ผ่านมาเพื่อมาตรวจพื้นที่การขุดวางติดตั้งเสาสายไฟฟ้าแรงสูงผ่านบ้านเรือนประชาชนในบ้านหนองโจด หมู่ 3 ต.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ

 

ซึ่งชาวบ้านรายนี้ที่ก้มลงกราบนายอำเภอ เพื่อขอร้องขอความเป็นธรรมต่อนายอำเภอหนองบัวระเหว ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเห็นใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย แต่ก็ถูกเมินหน้าเดินหนี ก่อนจะเดินเข้าไปพูดคุยกับตัวแทนบริษัทที่เข้ามาดำเนินการติดตั้งเสาไฟฟ้าทันที ก่อนที่จะไม่มีคำตอบอะไรให้ชาวบ้านได้และเดินทางกลับโดยไม่สนใจที่จะให้คำตอบและชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้นว่าจะช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้เลยอย่างไรต่อไปได้ จนมีชาวบ้านใกล้เคียงที่อยู่ใกล้ถ่ายภาพไว้ในขณะชาวบ้านรายนี้ก้มลงกราบนายอำเภอไว้ได้ เห็นแล้วยิ่งพากันสะเทือนใจยิ่งนักและนำภาพก้มกราบนายอำเภอครั้งนี้ไปแชร์ว่อนเน็ตในไปทั่วในขณะนี้ ต่างพากันหดหู่ใจยิ่งนักต่อกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมแจ้งว่าตัวแทนชาวบ้านทั้งหมดในครั้งนี้เตรียมที่จะเดินทางขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ที่ทราบว่าจะเดินทางมาลงพื้นที่ตรวจราชการที่จ.ชัยภูมิ ในวันที่ 3 ธ.ค.2561 นี้ด้วย ชาวชัยภูมิสุดทนพากันออกมาวิงวอนผ่านไปถึงบิ๊กตู่เร่งช่วยถูกมัดมือชกโวยตั้งเสาไฟฟ้าผ่านบ้านไม่เคยถามชาวบ้าน//สุทธิพงศ์ จ.ชัยภูมิ

ร่วมเบิร์ดเดย์ ครบรอบ 74 ปี พี่ตุ๋ย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย

ร่วมเบิร์ดเดย์ ครบรอบ 74 ปี พี่ตุ๋ย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย

เมื่อคืนวันที่ 28 พ.ย.2651 ณ 13 เหรียญรีสอร์ท งามวงค์วาน นนทบุรี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษาบริษัทในเครือ จีจีไอ กรุ๊ป ,ประธานที่ปรึกษา"มูลนิธิพระราหู โครงการ ใจถึงใจ"ร่วมอวยพรและแสดงความยินดีเนื่องในวันคล้ายวันเกิด คุณศิวดล ชวลิตปรีชา พี่ตุ๋ย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ครบรอบ 74 ปี 


โดยมี พล.อ.สิทธิ์ สิทธิมงคล นายกสมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทา ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะศึกษาหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์การบริหารงานส่งกำลังบำรุง พสอ.8 พร้อมด้วยร้อยเอก ดร.เมตตา เต็มชำนาญ ตู่ เมตตา ประธานกลุ่มเมตตาธรรมและชมรมรวมพลคนโอเอร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงานฉลองวันเกิดครั้งนี้ภายใต้ชื่องาน เหลือเวลาอีก 25 ปี


นอกจากนี้ยังมี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม,คุณฤทธิ์ ลือชา ดารานักแสดงอาวุโส พี่ขิงไทยรัฐ รวมทั้ง เพื่อน พี่ๆน้องๆ และสื่อมวลชนและคนในวงการกีฬา มาร่วมอวยพรและแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขของพี่ๆน้องๆที่มาร่วมงานเบิร์ดเดย์ครั้งนี้

ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ แก้ไขปัญหาจราจรแบบบูรณาการ ประสานพัฒนาเทคโนโลยีให้นำสมัย

ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ  แก้ไขปัญหาจราจรแบบบูรณาการ  ประสานพัฒนาเทคโนโลยีให้นำสมัย


กองบังคับการตำรวจจราจร บูรณาการกำลังร่วมกับกรุงเทพมหานคร สำนักเทศกิจ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระดมจับกุมรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า


ด้วยปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนผ่าน เพจเฟสบุ๊ค “นิธิธร  จินตกานนท์” และร้องเรียนจาก​ 1197  กรณีรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า และขับขี่ย้อนศร กองบังคับการตำรวจจราจร จึงได้บูรณาการกำลังร่วมกับกรุงเทพมหานคร , สำนักเทศกิจ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า และขับขี่ย้อนศร บริเวณเขตพื้นที่ห้วยขวางและดินแดง เพื่อมาดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย และเกิดความปลอดภัย อีกทั้งเป็นการยืดอายุในการใช้ทางเท้า สำหรับประชาชนและผู้พิการ


เมื่อวันที่  28 พ.ย. 2561  เวลาประมาณ 16.00-18.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผบช.สตม. นำโดย พล.ต.ต.นิธิธร  จินตกานนท์ ผบก.จร., พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง, พ.ต.อ.ชัช​ชัย​ สำเนียง​ ผกก.5​ บก.จร., พ.ต.ท.เจษฎา​ ยางนอก​ รอง​ ผกก.2​ บก.จร., พ.ต.ต.คริษฐ์​ ปริยะเกตุ​ สว.งานสายตรวจ​1​ กก.1​ บก.จร.​, พ.ต.ต.วรสุวัฒน์ ทวีรัชตโภคิน ปรท.สว.งานสายตรวจ​1​ กก.1​ บก.จร.ร่วมกับ นายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ , นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการกองนิติการและบังคับคดี , นายวัตรฤทธิ์ ทองธัญวีรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจและบังคับการ 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร. , บก.ทท.และ สน.ห้วยขวาง ร่วมกันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บริเวณหน้าห้างฟอจูนเขตพื้นที่ห้วยขวางและดินแดง

ผลการจับกุมดังนี้

- รถจอดเขตห้าม 15 ราย ปรับ 3 ราย

- ย้อนทาง              3 ราย ปรับ 1 ราย

- บนทางเท้า           7 ราย ปรับ - ราย

- ไม่สวมหมวก        3 ราย ปรับ 3 ราย 

- จอดบนทางเท้า     1 ราย ปรับ 1 ราย

รวมจับกุม               29 ราย ปรับ 8 ราย


โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ที่ถูกจับกุมจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 17, 56 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (7) , 157 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สี่ร้อยบาทถึงหนึ่งพันบาท ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 41 , 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท


อนึ่ง  กองบังคับการตำรวจจราจรจะได้ดำเนินการกวดขันจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า และขับขี่ย้อนศร อย่างต่อเนื่องต่อไป

"รอง ผบช.ภ.9/รอง ผบช.ศปก.ตร. สน. เป็นประธานเปิด การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการผู้นำหน่วย ของตำรวจภูธรภาค9/ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห...