รวบ!!หัวหน้าแก๊งยากูซ่าสิ้นลายหลังหลบหนีคดีฆ่ากบดานในประเทศไทยนานกว่า 10 ปีก่อนถูกจับกุมได้กลางเมืองเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธ
**วันที่ 11 มกราคม 2561 พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพันตำรวจโท ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรี ชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี พลโท สุนัย ประภูชเนย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้ร่วมกันสอบปากคำ นาย ชิเกฮารุ ชิเรอิ ชาวญี่ปุ่นผู้นำกลุ่มยากูซ่า ชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ที่กบดานซ่อนตัวในประเทศไทยนานกว่า 10 ปี
**พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สืบสวนหาข่าวอาชญากรข้ามชาติที่เข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทยที่ผ่านมาได้สร้างภาคีเครือข่ายต่อต้านอาชญากรข้ามชาติทั้งตำรวจสากลและทูตจากประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่องทำให้ได้รับการประสานงานข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นขอความร่วมมือให้ติดตามจับกุมตัว นายชิเกฮารุ ชิเรอิ ชาวญี่ปุ่นสมาชิกอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลของแก๊งยากูซ่า ยามากูชิ กูมิ ที่ได้ร่วมกับพวกอีก 7 คนสังหารรองหัวหน้าแก๊งยากูซ่า คู่อริ แล้วหลบหนีความผิดมาแต่งงานกับสาวไทย และยังกบดานอยู่ในจังหวัดลพบุรีนานกว่า 10 ปี หลังจากทราบข้อมูลการประสานงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี จึงได้มอบหมายให้กับ พันตำรวจเอก อุกฤษ ภู่กลั่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี นำชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่หาข่าวจนทราบแน่ชัดว่า บุคคลดังกล่าว ได้หลบซ่อนตัวพักอาศัยอยู่ที่บริเวณสวนสาธารณะศาลลูกศร ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี
จึงได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบพบว่า นายชิเกฮารุ ชิเรกิ กำลังนั่งเล่นหมากรุกกับคนไทยจึงได้แสดงตัวและได้ทำการสอบปากคำจนกระทั่งยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ทางการญี่ปุ่นกำลังติดตามตัวจริงจึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี โดยในเช้าวันนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก เคสุเกะ โฮซากะ เลขานุการเอกและเจ้าหน้าที่ประสานงานอาวุโสฝ่ายตำรวจ ประจำสถานเอกอัครราชทูตประเทศญี่ปุ่น ได้หาร่วมกันสอบปากคำและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจทั้งสื่อประเทศไทยและต่างชาติจำนวนมาก ทางด้านพลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า
สืบเนื่องจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการประสานงานกับ พันตำรวจเอก เคสุเกะ โฮซากะ เลขานุการเอกและเจ้าหน้าที่ประสานงานอาวุโสฝ่ายตำรวจ ประจำสถานเอกอัครราชทูตประเทศญี่ปุ่น ได้หารือขอให้ทางการไทยติดตามตัวอาชญากรข้ามชาติรายสำคัญคือนายชิเกฮารุ ชิเรอิ อายุ 72 ปี สัญชาติญี่ปุ่นสมาชิกอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลของแก๊งยากูซ่า ชื่อยามากูชิ กูมิ ซึ่งเป็นแก๊งยากูซ่าที่มีเครือข่ายสมาชิกกว่า 17,000 คนมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นโดยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2546 นายชิเกฮารุ ได้ร่วมกับพวกอีก 7 คน ก่อเหตุฆ่าโหดนาย คาซึฮึโกะ โอโตเบะ รองหัวหน้ากลุ่มคามยะ ที่เป็นกลุ่มยากูซ่า คู่อริ โดยนายชิเกฮารุ ได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะผู้ตายอย่างโหดเหี้ยมหลายนัด ภายหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้วทางตำรวจญี่ปุ่นมีเบาะแสว่าได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 ดังนั้น พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามตัวมาดำเนินคดี
จากการแกะรอยพบข้อมูลว่ามีบุคคลที่มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายนายชิเกฮารุ อาศัยอยู่กับภรรยาไทย ในจังหวัดลพบุรี และมักจะปรากฏตัวที่สวนสาธารณะบริเวณศาลลูกศร ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี เป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 17.30 น.
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรีได้พบตัวนายชิเกฮารุ ที่สวนสาธารณะดังกล่าว จึงได้ทำการควบคุมตัวไว้จากการสอบถามรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันจริงจึงได้แจ้งข้อหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดและเป็นคนต่างด้าวไม่แจ้งที่พักอาศัยตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมทั้งประสานงานทางญี่ปุ่นเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องจากการสอบสวนเพิ่มเติมทราบว่านายชิเกฮารุ มีภรรยาเป็นชาวไทยชื่อนางอริสรา เมื่อต้องคดีที่ญี่ปุ่นจึงได้หลบหนี มายังราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ปี 2548 และได้มาอยู่อาศัยอยู่ในจังหวัดลพบุรีทำงานรับจ้างทั่วไปเช่นทาสีบ้าน ภายหลังมีปากเสียงกันเป็นประจำจึงได้เลิกรากันไปปัจจุบันใช้ชีวิตเพียงลำพังโดยตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยได้พยายามทำตัวให้เป็นจุดสนใจน้อยที่สุดเพราะเกรงว่าความลับจะเปิดเผยจนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวนางอริสราเพื่อเชิญมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป พล.ต.อ.วิระชัย ยังได้กล่าวว่า นายชิเกฮารุ จะมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นนำเงินมาให้ครั้งละ 10,000 บาท เป็นประจำปีละ 2-3 ครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขยายผลต่อไปว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใครและมีเครือข่ายการกระทำผิดอยู่ในประเทศไทยหรือไม่เพื่อดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปสำหรับในกรณีนี้ทางตำรวจจะทำการเนรเทศนายชิเกฮารุ กลับไปรับโทษยังประเทศญี่ปุ่นต่อไป แต่ต้องทำการตรวจสอบก่อนว่านายชิเกฮารุเคยต้องคดีหรือเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีใดในประเทศไทยหรือไม่หากมีก็ต้องดำเนินคดีและรับโทษในประเทศไทยให้เสร็จก่อนจึงจะเนรเทศออกราชอาณาจักรได้เบื้องต้นนายชิเกฮารุ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
ความคืบหน้าล่าสุดภายหลังจากแถลงข่าวแล้วพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำตัว นาย ชิเกฮารุ ชิเรอิ ผู้ต้องหา ไปชี้จุดที่พักพิง ที่เคยทำงาน และเคยใช้เป็นพักอาศัยหลบซ่อนตัวในประเทศไทย คือ โกดังโรงสีข้าว ของนาย ธวัชชัย เจนาคม อายุ 72 ปี เลขที่ 45/2 หมู่ที่ 2 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี
ซึ่งนายชิเกฮารุ บอกว่าตนเองหลังมาอยู่กับภรรยาชาวไทย ชื่อนางอริสา ได้ระยะหนึ่งได้มีปากเสียงกันจึงได้เลิกลากับภรรยาชาวไทยและมาขอรับจ้างทำงานที่โรงสีแห่งนี้ มา 1 ปีเศษ ต่อมาทางรัฐบาลได้มีการกวาดล้างแรงงานต่างด่าว จึงถูกเลิกจ้างจนต้องเร่ร่อนไปหารับจ้างทั่วไปก่อนมาอาศัยพักพิงแห่งใหม่ บริเวณป้อมยามล้างข้างศาลลูกศร ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี
โดยทำหน้าที่ค่อยเก็บกวาด ดูแลทำความสะอาดศาลเจ้า เพื่อแลกกับเงินประทังชีวิตในแต่ละวัน โดยตลอดเวลาที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย นายชิเกฮารุ พยายามทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ เพื่อไม่ให้ถูกตามล้างแค้นจากแก๊งยากูซ่า คู่อริ และ เกรงว่าความลับของตนเอง ที่ทำไว้ที่ประเทศญี่ปุ่นจะถูกเปิดเผย ซึ่งถูกปิดเป็นความลับมากว่า 10 ปี ก่อนมาถูกตำรวจลพบุรี จับกุมตัวได้ ขณะกำลังนั่งเล่นมากรุก กับเพื่อนคนไทย บริเวณสวนสาธารณะ ข้างศาลลูกศร ดังกล่าวโดย เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกลาวหาแก่ นายธวัชชัย เจนาคม เจ้าของโกดังในข้อหา จ้างแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดำเนินคดีต่อไป//อนันต์ อ่ำทอง จ.ลพบุรี
thailandpressnews
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น