"ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนสื่อ!! หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม จากบริษัทประมูลโครงการก่อสร้างถนนวงแหวนจังหวัดนครราชสีมา "ถูกเบี้ยว" ค่าบรรทุกดินถมถนนในโครงการฯ อ้างดินหาย เสียหายเกือบล้านบาท!!
โดยทางตัวแทน ห้างหุ้นส่วน จำกัด ยังขาว ก่อสร้าง 2013 ได้เข้าร้องเรียนกับทางสื่อมวลชนว่า ตนเอง และรถร่วมได้นำรถบรรทุกสิบล้อจำนวน 39 คัน และรถแบกโฮ จำนวน 9 คัน มาวิ่งบรรทุกดินในโครงการทำถนนวงแหวนตอนใต้ จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางประมาณ 29 กม.โดยได้รับการว่าจ้างให้บรรทุกดินเพื่อมาถมถนนโครงการดังกล่าว ตนเองและรถร่วมได้ทำการวิ่งบรรทุกดิน ตามข้อสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้คือ รถต่อคันจะต้องบรรทุกดินเป็นจำนวน 15 คิว ต่อหนึ่งคันรถ ซึ่งตนเองและรถร่วมได้ทำตามข้อตกลงดังกล่าวมาตลอด เพราะในการบรรทุกจำนวนดินและส่งปลายทางจะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทเป็นผู้ตรวจจำนวนดินในการขนส่งตลอดเวลา และ เซ็นรับทุกครั้ง โดยก่อนหน้านี้การทำงานกับบริษัทที่เป็นผู้ประมูลโครงการสร้างถนนวงแหวนเป็นไปด้วยดีมาตลอด แต่มาช่วงหลังทางบริษัทได้แจ้งกับทางตนว่า ดินที่นำมา ถมถนนนนั้นไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ ซึ่งทางตนก็ได้แจ้งไปว่าถ้าดินไม่ครบตามจำนวนทำไมทางเจ้าหน้าที่ ที่เซ็นรับถึงปล่อยผ่านในการบรรทุกดินไปทุกครั้ง
โดยทางตัวแทน ห้างหุ้นส่วน จำกัด ยังขาว ก่อสร้าง 2013ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางบริษัทที่รับผิดชอบโครงการฯยังคงค้างเงินเป็นจำนวนหลายแสนบาท และได้ทำการหักเงินย้อนหลังพวกตนอีก ตรงนี้ตนเองและรถร่วมมองว่าทางบริษัทไม่มีความเป็นธรรมกับตนเองและรถร่วม เพราะจำนวนเงินที่หักไปมันเยอะมาก รถที่มาร่วมวิ่งบรรทุกดินเค้ามีความเดือดร้อนกันทั้งนั้น และที่สำคัญรถร่วมยังมองว่าทาง ห้างหุ้นส่วน จำกัด ยังขาวก่อสร้าง 2013 เป็นผู้หักเงินเอง ซึ่งตนเองได้ทำการสอบถามไปทางบริษัทที่ดูแลโครงการถนนสายนี้ไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจนในการหักเงินครั้งนี้
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับทาง ผู้จัดการดูแลโครงการ ก็ไม่ได้รับความร่วมมือในการสอบถามและยังขับรถหนีกับทีมข่าวที่ลงพื้นที่และทางบริษัทที่ประมูลโครงการนี้ก็ไม่ยอมให้คำตอบถึงกรณีเรื่องดังกล่าว ผู้เสียหายกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองและกลุ่มรถร่วมได้รับความเดือดร้อนและมีความเสียหายอย่างมาก รถก็ต้องผ่อนแทบทุกคัน ถ้าบริษัทที่รับเหมาโครงการฯยังนิ่งเฉย ตนเองและกลุ่มรถร่วมจะนัดรวมตัวเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อไป
ถนนสายนี้กรมทางหลวง (ทล.) ได้ทำการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรมโครงการก่อสร้างถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมาเพื่อให้มีโครงข่ายถนนวงแหวนที่สมบูรณ์ รูปแบบถนน 4 เลนเพื่อช่วยระบายจราจรที่คับคั่งในตัวเมือง รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการเดินทางในพื้นที่โดยรอบให้เกิดประโยชน์ต่อการคมนาคมและขนส่ง โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 ตอนคือด้านทิศเหนือตอนที่ 2 และตอนที่ 3 ด้านทิศใต้ตอนที่ 3 และตอนที่ 4 สำหรับด้านทิศเหนือตอนที่ 2 จะเริ่มต้นต่อจากทิศเหนือตอนที่ 1 บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 2068 ถนนสายโคกกรวด-โนนไทย กม.ที่ 6+450 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อถึงบริเวณกม.ที่ 3 ตัดกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (มอเตอร์เวย์) บางปะอิน-นครราชสีมา ผ่านพื้นที่ตำบลขามทะเลสอ ตำบลพุดซา ตำบลสำโรง ตำบลโคกสูงไปสิ้นสุดโครงการตัดกับทางหลวงหมายเลข 205 หรือถนนสุระนารายณ์ ประมาณกม.ที่ 217+550 รวมระยะทาง 23 กม. ด้านทิศเหนือตอนที่ 3 ต่อจากทิศเหนือตอนที่ 2 จุดตัดทางหลวงหมายเลข 205 ถนนสุระนารายณ์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านตำบลโคกสูง เมื่อถึงกม.ที่ 9 ผ่านตำบลด่านคล้า จะตัดผ่านทางรถไฟกรุงเทพฯ-หนองคาย เข้าสู่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอโนนสูง ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเฉลิมพระเกียรติไปสิ้นสุดโครงการตัดกับทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพใกล้เคียงกับวัดป่าคูเมือง ประมาณกม.ที่ 168+668 รวมระยะทาง 17 กม. ด้านทิศใต้ ตอนที่ 3 จุดเริ่มต้นต่อจากด้านทิศใต้ตอนที่ 2 บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 224 สายนครราชสีมา-โชคชัย ผ่านตำบลหนองเวียง ประมาณกม.ที่ 8+300 ตัดผ่านแม่น้ำมูลขึ้นไปทางทิศเหนือ ผ่านตำบลหนองยาง ตำบลพระพุทธ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ประมาณกิโลเมตรที่ 15+200 ตัดผ่านแม่น้ำมูลอีกครั้ง ต่อจากนั้นแนวจะตัดผ่านทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และทางหลวงหมายเลข 226 สายนครราชสีมา-บุรีรัมย์ ประมาณกม.ที่ 16+450 ซึ่งเป็นบริเวณสิ้นสุดโครงการที่จะไปต่อเนื่องกับถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมาด้านทิศใต้ตอนที่ 4 รวมระยะทาง 18 กม. ด้านทิศใต้ ตอนที่ 4 จุดเริ่มต้นต่อจากทิศใต้ตอนที่ 3 จุดตัดทางหลวงหมายเลข 226 บริเวณใกล้เคียงกับทางเข้าโรงแรมวันชัยในพื้นที่ตำบลพระพุทธ แนวเส้นทางจะมุ่งไปทางทิศเหนือผ่านผ่านตำบลพระพุทธ มุ่งหน้าผ่านเข้าสู่ด้านทิศตะวันตก ตำบลท่าช้าง มุ่งหน้าผ่านด้านทิศใต้ของตำบลหนองงูเหลือม วิ่งไปตามแนวเขตตำบลหนองงูเหลือม ด้านทิศตะวันออก ผ่านตำบลโตนด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ และไปต่อเนื่องกับถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ด้านทิศเหนือ ตอนที่ 3 ระยะทาง 12 กม. โดยทั้ง 4 ตอนออกแบบให้เป็นถนน 4 ช่องจราจร มีความกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.50 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้าง 1.50 เมตร ผิวจราจรคอนกรีตและมีเกาะกลางชนิดกดเป็นร่อง กว้าง 12.10 เมตร อยู่ภายในเขตทาง 80 เมตร โดยได้เปิดรับฟังความเห็นประชาชน ครั้งที่ 3 ไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2558 หลังจากนี้จะเร่งออกแบบรายละเอียดโครงการให้แล้วเสร็จนำเสนอกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันต่อไป โดยหากรวมทั้ง 4 ตอนคาดว่าจะใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท//
#ทีมข่าวThailandpressnews
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น