วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

"รอง ผบ.ตร.(ปป) เฉลิมเกียรติ.ลงพื้นที่ หมอชิต 2 เพื่อร่วมตรวจตรามาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ตามแผนพิทักษ์ภัยให้แก่ประชาชน ปีงบประมาณ 2562 !!

"รอง ผบ.ตร.(ปป) เฉลิมเกียรติ.ลงพื้นที่ หมอชิต 2 เพื่อร่วมตรวจตรามาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน  ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562  ตามแผนพิทักษ์ภัยให้แก่ประชาชน ปีงบประมาณ 2562 !!

วันนี้ (28 ธ.ค.61) เวลา 18.00 น.  พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ  ศรีวรขาน  รอง ผบ.ตร.(ปป)  พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 , พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง  เดินทางลงพื้นที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร)  หรือ สถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อร่วมตรวจตรามาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน  ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562  ตามแผนพิทักษ์ภัยให้แก่ประชาชน ปีงบประมาณ 2562 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พร้อมทั้งเชิญชวนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Police i lert u เพื่อแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย และขอความช่วยเหลือเมื่อประสบภัย  นอกจากโทรศัพท์สายด่วน 191  อีกทั้ง เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน ที่จะต้องเดินทางออกไปต่างจังหวัด 

สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562  ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน  เพื่อเยี่ยมเยียนบิดา  มารดา  ญาติพี่น้อง  พบปะ  สังสรรค์  ร่วมกับเพื่อนฝูง  ตลอดจนไปพักผ่อนและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว  ในแต่ละภูมิภาคเป็นจำนวนมาก  ทั้งนี้  ในบางพื้นที่ได้จัดให้มีงานรื่นเริงเฉลิมฉลองการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  หรือจัดงานเคาท์ดาวน์ (Countdown)  และจากการที่ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปท่องเที่ยวพักผ่อน ตามสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้  อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน  และการก่อความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น ได้  สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการกำชับให้ทุกหน่วยในสังกัด  ถือปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม  การรักษาความสงบเรียบร้อย  

โดยให้ปฏิบัติตามแผนพิทักษ์ภัยให้ประชาชน  ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2562  นอกจากนี้  ยังกวดขันเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทุกนาย  ทุ่มเท กำลังกาย  และเสียสละความสุขส่วนตัว  เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน  อย่างความเป็นตำรวจมืออาชีพ  อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ยังได้กำหนดโครงการต่างๆ ขึ้นมา  เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน  อาทิ โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ  (โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ) ซึ่งกำหนดให้เปิดให้ประชาชนที่ไม่อยู่บ้าน เดินทางไปท่องเที่ยว หรือ กลับภูมิลำเนา ได้เข้าร่วมโครงการฯ ระหว่างวันที่ 24 ธ.ค.61 – 2 ม.ค.62  (ระยะเวลา 10 วัน)  เพื่อเสริมการปฏิบัติในการป้องกันอาชญากรรม โดยประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องปฏิบัติตามแนวทาง/ขั้นตอนการปฏิบัติที่กำหนด เพื่อให้เป็นไปตามในแนวทางเดียวกัน ขณะนี้ (ตั้งแต่ 24 - 27 ธ.ค.61) มียอดจำนวนผู้ฝากบ้านแล้วกว่า 2,700 หลัง ทั่วประเทศ  ซึ่งขณะนี้ประชาชนที่ไม่ได้อยู่บ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 นี้  สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการได้จนถึง  วันที่ 2 ม.ค.62  รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 10 วัน 

การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นการเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562  นี้  โดยได้ใช้กำลังพลกว่า 70,000 นาย ในการปฏิบัติงาน  อีกทั้งได้มีการบูรณาการกำลังร่วมกับทุกฝ่าย  ทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร เข้าร่วมการปฏิบัติ  มีการซักซ้อมการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง  มีการตรวจสอบติดตามโดยผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น  เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด  และที่สำคัญ  จะต้องได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน  ตามมาตรการเพื่อนบ้านเตือนภัย 

โดยขอความร่วมมือเจ้าของ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ หมู่บ้านจัดสรร ได้กำชับ รปภ. ตรวจสอบความพร้อมของโทรทัศน์กล้องวงจรปิด ทั้งแนะนำการสังเกตจดจำตำหนิรูปพรรณ และยานพาหนะผู้ต้องสงสัย การบันทึกภาพคนร้าย ผู้ต้องสงสัย ด้วยโทรศัพท์มือถือ และการแจ้งข้อมูลบุคคล ยานพาหนะที่มีพิรุธหรือต้องสงสัย ให้ สน./สภ.ท้องที่ทราบ ผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 191 เป็นช่องทางหลัก ในการรับแจ้งเหตุจากประชาชน และสามารถใช้แอปพลิเคชั่น Police i lert u เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารสองทางกับประชาชนอีกช่องทางหนึ่ง  เพื่อร่วมกันติดตามและเฝ้าระวังเหตุร้าย และความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้  จะช่วยทำให้ผู้แจ้งเหตุสามารถส่งข้อมูลผู้แจ้งเหตุ พฤติการณ์ และสถานที่เกิดเหตุไปยัง ศูนย์วิทยุ 191 ของทุกกองบังคับการตำรวจนครบาล  หรือ ตำรวจภูธรจังหวัดทั่วประเทศ และศูนย์วิทยุของสถานีตำรวจ ซึ่งผู้แจ้งเหตุอยู่ในเขตพื้นที่  พร้อมๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของสถานีตำรวจในเขตพื้นที่ จะสามารถเข้าช่วยเหลือ ระงับเหตุ ได้อีกส่วนหนึ่งด้วย โดยที่ศูนย์วิทยุ 191 และศูนย์วิทยุของสถานีตำรวจ จะสามารถเข้าควบคุม สนับสนุน ช่วยเหลือ และบริหารติดตามเหตุการณ์ เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการโดยเร็ว จึงเป็นการลดขั้นตอนและเวลาที่ใช้ในการส่งถ่ายข้อมูลอย่างมาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสามารถเข้าให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น!!

##########################

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"รอง ผบช.ภ.9/รอง ผบช.ศปก.ตร. สน. เป็นประธานเปิด การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการผู้นำหน่วย ของตำรวจภูธรภาค9/ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห...