วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2562

"ศปอส.ตร.!!แถลงผลจับกุมคนร้ายร่วมกันฉ้อโกงหลอกขายนาฬิกาหรู ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกซ์(Facebook & LINE) มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท!!

"ศปอส.ตร.!!แถลงผลจับกุมคนร้ายร่วมกันฉ้อโกงหลอกขายนาฬิกาหรู ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกซ์(Facebook & LINE) มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท!!

ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ ตำรวจภูธร ภาค1ร่วมกันจับกุมคนร้ายร่วมกันฉ้อโกงหลอกขายนาฬิกาหรู ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกซ์(Facebook & LINE) มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท
หลังผู้เสียหายขอความช่วยเหลือผ่านเพจ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล 

        

ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารประเทศของ  พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี  ได้กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่างๆ และได้เร่งรัดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จริงจังในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้ตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ( ศปอส.ตร.) เพื่อเร่งรัดในการปฏิบัติการติดตามจับกุมคนร้ายซึ่งมีแผนประทุษกรรมที่ซับซ้อน ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด โดยได้มีผู้เสียหายรวมตัวกันมาร้องเรียนโดยตรงกับพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ว่ามีมิจฉาชีพได้หลอกลวงผู้เสียหายจำนวนหลายราย  ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกซ์ (Facebook & LINE) หว่านล้อมหลอกลวงผู้เสียหายว่าสามารถซื้อนาฬิกาหรูยี่ห้อต่างๆ ได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด ผู้เสียหายที่ต้องการซื้อนาฬิกาไปเพื่อขายต่อเอากำไรจึงหลงเชื่อ และมีการโอนเงิน ให้กับผู้ต้องหา ซึ่งในช่วงแรกจะมีการส่งนาฬิกาที่สั่งซื้อไว้ตามกำหนด แต่เมื่อมีการสั่งนาฬิกาจำนวนมากก็จะไม่ได้รับนาฬิกาที่สั่งซื้อแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นมีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้แล้วจำนวน 6 ราย ดังนี้

ผู้เสียหายรายที่ 1 เสียหาย 1,300,000  บาท 


ผู้เสียหายรายที่ 2 เสียหาย  4,310,000  บาท


ผู้เสียหายรายที่ 3 เสียหาย 11,030,000 บาท 


ผู้เสียหายรายที่ 4  เสียหาย 11,030,000  บาท


ผู้เสียหายรายที่ 5 เสียหาย   9,700,000 บาท

ผู้เสียหายรายที่ 6 เสียหาย  6,610,000  บาท

รวม 43,980,000 บาท

จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายดังกล่าว คือ
1.นางณกานดา ฐิติมนภูดิส  อายุ  47 ปี( หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 30/2562 ลง 24 ม.ค.62)
2.น.ส.ศิรฉัตร  กิจธนธีรนันท์   อายุ 33 ปี (หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 31/2562 ลง 24 ม.ค.62)
   

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหลอกลวงนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ จว.นนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
        
การกระทำของ บุคคลทั้งสอง จึงเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

ทั้งนี้ ขอสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์  ไปยังประชาชนทั่วไป  หากท่านได้รับความเดือดร้อนจากการถูกหลอกหรือโฆษณาชวนเชื่อ  และสงสัยว่าอาจตกเป็นเหยื่อ  ให้สอบถามข้อมูลได้ที่ ศปอส.ตร.โทร 1155 หรือ ผ่านแอฟพิเคชั่นไลน์(ศปอส.ตร.) หรือ ผ่านเฟซบุ๊ก(Facebook) ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล เพื่อดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป!!

#ทีมงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายอำนวยการ 5 : พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ. 5 บก.อก.สตม.:สายด่วน 1178 !!

:ทีมข่าว Thailandpressnews รายงาน!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"รอง ผบช.ภ.9/รอง ผบช.ศปก.ตร. สน. เป็นประธานเปิด การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการผู้นำหน่วย ของตำรวจภูธรภาค9/ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห...