"พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม./รอง ผอ.ศปอส.ตร.!!แถลงผลจับกุมมิจฉาชีพหลอกลวงเปิดเต้นท์ขายรถเสียหายร่วม 40ล้านบาท!!
ด้วยศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกว่า 100 ราย ถูกหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบจากเต้นท์รถสมบูรณ์ยนตรการ และหจก.นิ่มนวลยนตรการ ได้รับความเสียหายรวมกว่า 40 ล้านบาท เหตุเกิดที่พื้นที่รับผิดชอบ สภ.สตึก ภ.จว.บุรีรัมย์
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะรอง ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญา กรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือศปอส. ตร.,พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐ์ศักดิ์ ผบช.ภ.3 ,พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผบก.สส.บช.ภ.3,พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3,พ.ต.อ. แดนไพร แก้วเวหล ผกก.สภ.ภูผาม่าน,พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.ควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ บช.ทท.,พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.สายตรวจ สนธิกำลัง ศปอส.ตร .ปิดล้อมตรวจค้น 4 จุดในพื้นที่อ.สตึก จ.บุรีรัมย์
โดยการปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้เป็น การขยายผลเข้าตรวจสอบเต้นท์รถสมบูรณ์ยนตรการ และหจก.นิ่มนวลยนตรการ รวมทั้งคาร์แคร์ล้างรถ หลังผู้เสียหายกว่า 100 ราย เข้าร้องเรียนกับศปอส.ตร. ว่าถูกเต้นท์รถแห่งนี้กระทำนิติกรรมอำพรางในลักษณะฉ้อโกงประชาชน โดยในเบื้องต้นได้ทำการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินอาทิ บ้านที่พักอาศัย โฉนดที่ดิน รถยนต์กว่า 227 คันมูลค่ากว่า 292,656,000 บาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาทางศปอส.ตร.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกว่า 100 ราย ว่าถูกหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบจากเต้นท์รถสมบูรณ์ยนตรการ และหจก.นิ่มนวลยนตรการ ได้รับความเสียหายรวมกว่า 40 ล้านบาท เหตุเกิดที่พื้นที่รับผิดชอบ สภ.สตึก ภ.จว.บุรีรัมย์ จึงได้สั่งการให่้ชุดสืบสวนประสานงานกับ ภ.จว.บุรีรัมย์และบก.สส.ภ.3 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยในเบื้องต้นพบการกระทำความผิดจริง ซึ่งพบว่าเต้นท์ดังกล่าวประกอบกิจการเกี่ยวกับการซื้อขาย จำหน่ายแลกเปลี่ยน รถยนต์มือสอง หรือรถยนต์ใช้แล้ว โดยมีลักษณะการหลอกลวงประชาชน อาทิ หลอกซื้อรถโดยการจ่ายเงินไม่ครบ หรือหลอกซื้อรถที่ติดไฟแนนซ์แต่ไม่ยอมปิดไฟแนนซ์ให้ตามที่ตกลง และหลอกขายรถติดไฟแนนซ์คันอื่นให้ผู้เสียหายในเวลาเดียวกันหลอกให้เอาโฉนดที่ดินมาฝากขายเป็นเงินดาวน์ แล้วปล่อยกู้เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ขณะเดียวกันพบว่าระหว่างการประกอบกิจการได้มีการขยายกิจการมาโดยตลอด สวนทางกับบัญชีงบดุลที่แจ้งการขาดทุนมาโดยตลอด อันเป็นการแสดงเจตนาเลี่ยงภาษีอีกทั้งมีประชาชนในพื้นที่แจ้งความ 61 ราย
ต่อมาชุดทำงานจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ออกหมายจับผู้ร่วมญชีกระทำความผิด 5 ราย ประกอบไปด้วย
1.ห้างหุ้นส่วนนิ่มนวลยนตรการ โดย นางนิ่มนวล สีสันงาม
2.นางนิ่มนวล สีสันงาม,
3.นายสมบูรณ์ ยือรัมย์,
4.นางวิกานดา ม่วงอยู่,และ
5นางสาวกมลพร อัญชลี
ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.31-35/2562 ลง 20 ก.พ.2562
ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด,จัดหามาซึ่งเงินทุนให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ปลอมและใช้เอกสารปลอม โดยได้นำกำลังเข้าตรวจค้นตามที่พักอาศัยและเต้นท์รถในอำเภอสตึก ซึ่งติดตามพฤติกรรมของแก๊งนี้ จนแน่ใจว่ามีการหลอกลวงประชาชนเข้าข่ายฉ้อโกงและใช้เอกสารราชการปลอม จึงได้สั่งให้แกะรอยเส้นทางการเงินกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวตั้งแต่ปี 2554-2561 พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 231 ล้านบาท
อีกทั้งธุรกิจนี้ไม่มีใบประกอบการซื้อขายตามกฎหมายด้วย และเตรียมจะขยายผลเข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ รวมทั้งหากพบมีการหลบเลี่ยงภาษีก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 รายยังคงให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง4ราย พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาเพื่อชดใช้ให้ผู้เสียหาย ส่วนสาเหตุนั้นมาจากปัญหาเรื่องการเงินเป็นหลัก มีเงินหมุนเวียนไม่เพียงพอจนเกิดผลกระทบตามมา!!
#ทีมงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายอำนวยการ 5 : พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ. 5 บก.อก.สตม.:สายด่วน 1178 !!
:ทีมข่าว Thailandpressnews รายงาน!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น